7 ข้อควรรู้ ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มอย่างไร ให้ปลอดภัย และได้ผล

ฟิลเลอร์ร่องแก้ม

ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม อย่างไรให้ปลอดภัย

เสน่ห์ความงามบนใบหน้าที่เป็นปราการด่านแรกให้หลายคนพบเห็นแล้วต่างก็ต้องสะดุดตาประทับใจ หลักๆ ก็คือการมีผิวหน้าเต่งตึง สะท้อนความอ่อนเยาว์ของผิวสาวที่สวยสดใส แต่เมื่ออายุมากขึ้น สาวๆ หลายคนก็เริ่มกังวลเกี่ยวกับปัญหาความหย่อนคล้อยบนผิว ทั้งบริเวณใต้ตา หน้าผาก และร่องแก้ม โดยเฉพาะความหย่อนคล้อยของร่องแก้มที่ลึกกว่าปกติ ทำให้ใบหน้าดูแก่กว่าอายุจริง แต่อย่างไรก็ตาม ปัญหาเหล่านี้จะหมดไป เพราะสามารถแก้ได้ด้วยการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มนั่นเอง

การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม คือนวัตกรรมอันทันสมัยที่ช่วยในการยกกระชับผิวหน้า ทำให้ริ้วรอยร่องลึก ร่องตื้นบริเวณต่างๆ กลับมามีความเด้งเต่งตึง ผิวบริเวณที่ฉีดจะเกิดความกระชับ เรียบเนียน อิ่มฟู ถือเป็นเทคโนโลยีชั้นเยี่ยมที่จะช่วยเรียกคืนความอ่อนเยาว์กลับคืนมาสู่ผิวสาวได้ดั่งใจอีกครั้ง

7 ข้อควรรู้ ก่อนฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม มีอะไรบ้าง?

เพื่อให้คุณได้ทำความเข้าใจเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มมากขึ้น เราจึงมี 7 ข้อควรรู้เกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มมาฝาก มาดูกันว่ามีข้อมูลอะไรบ้างที่คุณควรรู้ก่อนทำการฉีด

1.วิธีการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มที่ถูกต้องเหมาะสม

การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มที่ถูกต้องและเหมาะสมตามหลักการฉีดของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ มีด้วยกัน 2 วิธี โดยประกอบไปด้วย

  • ฉีดหนุนกระดูกร่องแก้ม เป็นวิธีที่จะช่วยยกกระชับบริเวณร่องแก้ม ซึ่งจะช่วยทำให้ร่องแก้มหายไป
  • ฉีดร่องแก้มโดยตรง เป็นการแก้ไขปัญหาร่องแก้มหย่อนคล้อย หรือรอยเป็นร่องตื้นซึ่งเกิดจากต้นตอโดยตรง

2.ปริมาณ CC ที่เหมาะสมในการใช้ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม

ปริมาณ CC ที่เหมาะสำหรับการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มนั้น ขึ้นอยู่กับการประเมินของแพทย์ผู้ดูแล ว่าควรจะฉีดมากน้อยแค่ไหน เพราะใบหน้าของแต่ละคนมีร่องแก้มที่ไม่เท่ากัน แพทย์จึงต้องวิเคราะห์เป็นเคสๆ ไป แต่โดยส่วนใหญ่จะเริ่มใช้ที่ปริมาณ 0.5 CC ขึ้นไป

3.ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มผิดวิธี อาจทำให้ฟิลเลอร์จับตัวเป็นก้อนได้

เพื่อให้การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มเกิดประสิทธิภาพในทางที่ดี ควรเลือกฉีดกับแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ เพราะแพทย์ที่ขาดความเชี่ยวชาญหรือประสบการณ์ในการฉีด อาจจะใช้วิธีการฉีดที่ไม่ถูกต้อง ทำให้ฟิลเลอร์เข้าสู่ผิวหน้ามากเกินไป จนจับตัวแข็งเป็นก้อนได้

4.ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ผลข้างเคียงมีอะไรบ้าง

การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มนั้น ไม่มีผลข้างเคียงอันตรายร้ายแรง มีเพียงอาการบวมที่พบได้ในหลายๆ เคส ซึ่งจะปรากฎในลักษณะของอาการบวมที่แตกต่างกันในแต่ละราย แต่ก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะอาการบวมเหล่านั้นจะหายไปภายใน 3-4 วันหลังจากการฉีด

5.ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ยี่ห้อไหนดีที่สุด

สำหรับการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม การเลือกยี่ห้อของสารที่จะนำมาฉีดเข้าสู่ผิวหน้านั้น เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องพิจารณาเป็นลำดับต้นๆ โดยสารดังกล่าวจะต้องเป็นสารที่ผ่านการรับรองมาตรฐานจาก อ.ย. และมีประสิทธิภาพในการเติมเต็มร่องแก้มได้อย่างเห็นผล

โดยยี่ห้อที่แนะนำสำหรับการฉีดก็คือ Juvaderm Ultra Plus XC ซึ่งเป็นรุ่นผสมยาชา ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในสถาบันเสริมความงามชั้นนำทั้งหลาย ในการนำมาฉีดร่องแก้มเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น โดยฟิลเลอร์ยี่ห้อนี้สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติภายใน 12 เดือน นอกจากจะช่วยเติมเต็มร่องแก้มได้ดีแล้ว ยังสามารถใช้ฉีดบริเวณอื่นๆ บนผิวหน้าเพื่อแก้ปัญหาแก้มตอบ หรือขมับลึกได้ด้วย

6.ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มที่ไหนดี

การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ควรเลือกฉีดในคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีความปลอดภัย มีอุปกรณ์เครื่องมือครบครันทันสมัย รวมไปถึงควรเลือกฉีดกับแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์เท่านั้น เพราะคุณจะได้รับคำปรึกษาก่อนการฉีดที่ถูกต้องเหมาะสม โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะสามารถวิเคราะห์และประเมินจุดสำคัญที่ควรฉีด เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพในการฉีดที่เห็นผลมากที่สุด อีกทั้งยังไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงอันไม่พึงประสงค์ตามมา

7.ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ราคาเท่าไหร่

สำหรับราคาในการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มนั้น มีความแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพของตัวฟิลเลอร์ที่นำมาใช้ฉีด สำหรับยี่ห้อ Juvaderm Ultra Plus XC สูตรที่แนะนำสำหรับการฉีดร่องแก้มนั้นจะอยู่ที่ราวๆ CC ละ 9,900 บาท หรือหากเป็นรุ่นที่มีประสิทธิภาพน้อยลงมาหน่อย ก็จะมาพร้อมราคาที่ประหยัดกว่า

และนี่ก็คือ 7 ข้อควรรู้ สำหรับผู้ที่ต้องการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม โดยเป็นข้อมูลที่สาวๆ ควรศึกษาไว้ทั้งในช่วงก่อนและหลังที่จะทำการฉีดฟิล เพื่อให้เกิดความเข้าใจในการฉีดมากขึ้น และเพื่อประสิทธิภาพในการฉีดที่ได้ผลลัพธ์ในแบบที่คุณต้องการอย่างไม่มีผิดหวัง

ขอบคุณข้อมูลเกี่ยวกับฟิลเลอร์ร่องแก้ม

ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม หลังฉีดหน้าเด็กแค่ไหน ทำไมบางคนทำแล้วร่องลึกขึ้น 2021